สวัสดีค่ะทุกคน พูดถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ต่อให้ติวหนังสือมาดีจนมั่นใจแค่ไหน ก็ต้องมีบ้างแหละที่จะแอบหวั่น ๆ กันใช่ไหมล่ะ อย่างเราเองจำได้ว่าตอนนั้นก็มีไปขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน มีทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แถว ๆ บ้านแล้วก็สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย
วันนี้เราก็เลยเอาใจเด็กอยากลองของทั้งหลายด้วยการเปิดประสบการณ์สถานที่สำหรับขอพรเพื่อเสริมความมั่นใจก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยเรารวบรวมมาจากที่ชาวเน็ตหลาย ๆ คนเขาคอนเฟิร์มมา ตามไปดูกันสิคะว่าจะมีสถานที่ไหนกันบ้าง
- ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์
บริเวณแยกราชประสงค์นอกจากจะเป็นแหล่งรวมของห้างสรรพสินค้าชื่อดังมากมายแล้ว ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างชาติก็นิยมไปสักการะบูชากัน เชื่อกันว่าหากขอพรต่อองค์ท้าวมหาพรหมแล้ว ท่านจะช่วยปัดเป่าอุปสรรคและส่งเสริมความสำเร็จ ไม่เพียงแต่น้อง ๆ ที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่สำหรับคนทั่วไปหากใครมีโอกาสได้แวะเวียนไปแถวแยกราชประสงค์ก็อย่าลืมไปขอพรเพื่อความเป็นศิิริมงคลของชีวิตกันนะคะ
เครื่องสักการะ : ธูป 12 ดอก เทียน 1 เล่ม พวงมาลัยดาวเรือง 4 พวง ผลไม้ นม น้ำหวานหรือน้ำเปล่า
2. ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ
ตามความเชื่อเดิมผู้คนมักจะขอพรจากศาลหลักเมืองเพื่อความมั่นคงในหน้าที่การงาน แต่สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย พี่แนะนำว่าให้ขอพรเพิ่มความมั่นใจในการเลือกอันดับของคณะและมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าเรียนก็ได้นะคะ เพราะเป็นเรื่องแน่นอนเลยว่าไม่ว่าใครก็ต้องเกิดความสังเลตอนที่จะต้องเลือกกันทั้งนั้น และสำหรับน้อง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯก็สามารถไปขอพรตามศาลหลักเมืองที่จังหวัดของตัวเองได้ตามสะดวกเลยนะคะ
3. พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
หรือพระบรมรูปทรงม้าที่ตั้งโดดเด่นอยู่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมนั่นเอง น้อง ๆ ที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยและคนทั่วไปมักจะมาขอพรให้ประสบความสำเร็จ นิยมขอพรกันในวันอังคารและบูชาด้วยดอกกุหลาบสีชมพู แต่ว่าแตกต่างไปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ คือ ห้ามบน ให้ใช้เป็นการขอพรเพียงอย่างเดียว
4. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียน
เชื่อว่าที่โรงเรียนของน้อง ๆ ทุกคนหากเป็นโรงเรียนพุทธแล้วล่ะก็จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนอยู่แน่นอน น้อง ๆ ก็สามารถขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนของตัวเองได้เลยค่ะ ส่วนวิธีการบูชาหรือการบนบานก็ขึ้นอยู่กับการสืบเสาะหาข้อมูลของน้อง ๆ แล้วแหละ อย่างตอนที่พี่ขอพรกับศาลตายายประจำโรงเรียน รุ่นพี่เล่าต่อ ๆ กันมาว่า ให้บนบานด้วยการวิ่งรอบสนามฟุตบอลของโรงเรียน โดยวิ่งเป็นจำนวนรอบตามรุ่น แล้วพี่รุ่น 63 ก็ต้องวิ่งแก้บนกันไป 63 รอบ แต่เพราะสนามฟุตบอลโรงเรียนพี่กว้างมากก ก็เลยขอผ่อนด้วยการวิ่งวันละ 10 รอบเอา แต่สุดท้ายก็วิ่งจนครบนะคะ
5. พระในบ้าน
สถานที่สุดท้ายที่พี่จะแนะนำน้อง ๆ เป็นสถานที่ที่ใกล้ที่สุด ไม่ต้องเดินทางไปไหนเลย ก็คืิิอการขอพรต่อพระในบ้านของเราเอง พระในบ้านในที่นี้มี 2 ความหมายนะคะ ความหมายแรกหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านของเราที่เรากราบไหว้เป็นประจำ ส่วนอีกความหมายนึงก็คือการขอพรจากพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณของเรานี่แหละค่ะ พี่เชื่อนะคะว่าพรจากพวกท่านล้วนมาจากความหวังดีที่อยากให้เราประสลความสำเร็จ พรจากพระในบ้านจึงเป็นพรที่ประเสริฐที่สุดแล้ว
พี่จำได้แม่นเลยว่าตอนก่อนเข้ามหาวิทยาลัย นอกจากการอ่านหนังสืออย่างหนัก และเตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะและมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าเรียนแล้ว พี่และครอบครัวต่างก็มุ่งมั่นกับการเดินทางไปยังสถานที่เสริมความมั่นใจต่าง ๆ ตามที่พี่แนะนำไปนี่แหละค่ะ เคล็ดลับไหนที่รุ่นพี่ว่าดี ว่าเด็ด พี่ก็ลองทำบ้าง ครั้งนึงเคยเอาดินสอที่จะใช้สอบไปปักในกระถามธูปของศาลเจ้าด้วย แต่ปรากฏว่าพอเอาดินสอแท่งนั้นมาใช้แล้วมันเขียนไม่ติดอ่ะ 55555 สงสารจะปักนานไปหน่อย และแน่นอนว่าคำขอพรของพี่ก็ขอเหมือนกันทุกที่เลย คือขอว่า
“ขอให้ความพยายามของหนูประสบความสำเร็จ ขอให้หนูได้เข้าเรียนตามที่หวังนะคะ”
สุดท้ายพี่ก็ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและคณะตามที่ต้องการ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรับฟังคำขอจากพี่หรือเป็นเพราะคะแนนสอบกันแน่ แต่ถึงยังไงพี่ก็อยากเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ ทุกคนนะคะ สู้ให้เต็มที่ ทำทุกอย่างที่ทำได้ แล้ววันหนึ่งเราก็จะได้พบกับความสำเร็จอย่างที่ต้องการค่ะ